วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ตรรกศาสตร์


ประพจน์
ประพจน์ คือประโยคหรือข้อความที่อยู่ในรูปประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธที่เป็นจริงหรือเป็นเท็จอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตัวอย่าง
•  เชียงใหม่เป็นจังหวัดทางภาคใต้   เป็นประพจน์ เพราะเป็นประโยคบอกเล่าที่เป็นเท็จ
• ใครทำจานแตก  ไม่เป็นประพจน์ เพราะเป็นประโยคคำถามและบอกไม่ได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ
• -1 ไม่เป็นจำนวนเต็มบวก  เป็นประพจน์ เพราะเป็นประโยคปฏิเสธที่มีค่าความจริงเป็นจริง
นั่นคือ ประโยคคำถาม คำสั่ง ขอร้อง คำอุทาน หรือประโยคที่ไม่สามารถระบุค่าความจริงได้ ไม่เป็นประพจน์


ตัวเชื่อมประพจน์ และค่าความจริงของประพจน์ที่มีตัวเชื่อม
กำหนดให้
 p และ q เป็นประพจน์ใดๆ
เราสามารถเชื่อมประพจน์ทั้งสองเข้าด้วยกันได้ โดยอาศัยตัวเชื่อมประพจน์ดังต่อไปนี้

1.  ตัวเชื่อมประพจน์ "และ"
การเชื่อม p และ q เข้าด้วยกันด้วยตัวเชื่อมประพจน์ "และ" สามารถเขียนแทนได้ด้วยสัญลักษณ์ p  q ซึ่งจะมีค่าความจริงเป็นจริง (T) เมื่อ p และ q มีค่าความจริงเป็นจริง (T) ทั้งคู่ นอกนั้นมีค่าความจริงเป็นเท็จ (F)
2.  ตัวเชื่อมประพจน์ "หรือ" การเชื่อม p และ q เข้าด้วยกันด้วยตัวเชื่อมประพจน์ "หรือ" สามารถเขียนแทนได้ด้วยสัญลักษณ์ p ซึ่งจะมีค่าความจริงเป็นเท็จ (F) เมื่อ p และ q มีค่าความจริงเป็นเท็จ (F) ทั้งคู่ นอกนั้นมีค่าความจริงเป็นจริง (T)
3.  ตัวเชื่อมประพจน์ "ถ้า...แล้ว"
การเชื่อม p และ q เข้าด้วยกันด้วยตัวเชื่อมประพจน์ "ถ้า...แล้ว" สามารถเขียนแทนได้ด้วยสัญลักษณ์ p  q ซึ่งจะมีค่าความจริงเป็นเท็จ (F) เมื่อ p เป็นจริง (T) และ q เป็นเท็จ (F) นอกนั้นมีค่าความจริงเป็นจริง (T)
4.  ตัวเชื่อมประพจน์ "ก็ต่อเมื่อ"

การเชื่อม p และ q เข้าด้วยกันด้วยตัวเชื่อมประพจน์ "ก็ต่อเมื่อ" สามารถเขียนแทนได้ด้วยสัญลักษณ์ p  q ซึ่งจะมีค่าความจริงเป็นจริง (T) เมื่อ p และ q มีค่าความจริงตรงกัน และจะมีค่าความจริงเป็นเท็จ (F) เมื่อ p และ q มีค่าความจริงตรงข้ามกัน
5.  นิเสธของประพจน์
นิเสธของประพจน์ใดๆ คือ ประพจน์ที่มีค่าความจริงตรงกันข้ามกับประพจน์นั้นๆ และสามารถเขียนแทนนิเสธของ pได้ด้วย ~p



ประพจน์ที่สมมูลกัน และประพจน์ที่เป็นนิเสธกัน
ประพจน์ที่สมมูลกัน
ประพจน์ 2 ประพจน์จะสมมูลกัน ก็ต่อเมื่อ ประพจน์ทั้งสองมีค่าความจริงเหมือนกัน ทุกกรณีของค่าความจริงของประพจน์ย่อย
ตัวอย่างประพจน์ที่สมมูลกันที่ควรทราบ มีดังนี้
 q
  สมมูลกับ
 p
 q
 สมมูลกับ
 p
(p  q)  r
 สมมูลกับ
 (q  r)
(p  q)  r
 สมมูลกับ
 (q  r)
 (q  r)
 สมมูลกับ
(p  q)  ( p  r)
 (q  r)
 สมมูลกับ
(p  q)  ( p  r)
 q
 สมมูลกับ
~p  q
 q
 สมมูลกับ
~q  ~p
 q
 สมมูลกับ
(p  q)  (q  p)

ประพจน์ที่เป็นนิเสธกัน
ประพจน์ 2 ประพจน์เป็นนิเสธกัน ก็ต่อเมื่อ ประพจน์ทั้งสองมีค่าความจริงตรงข้ามกันทุกกรณีของค่าความจริงของประพจน์ย่อย
ตัวอย่างประพจน์ที่เป็นนิเสธกันที่ควรทราบ มีดังนี้


~(p  q)
สมมูลกับ
~p  ~q
~(p  q)
สมมูลกับ
~p  ~q
~(p  q)
สมมูลกับ
 ~q
~(p  q)
สมมูลกับ
(p  ~q) (q  ~p)
~(p  q)
สมมูลกับ
(p  ~q)  ( q ~p)


พิสูจน์ประพจน์ที่สมมูลกัน
ประพจน์ 2 ประพจน์จะสมมูลกัน ก็ต่อเมื่อ ประพจน์ทั้งสองมีค่าความจริงเหมือนกัน ทุกกรณีของค่าความจริงของประพจน์ย่อย
ตัวอย่างประพจน์ที่สมมูลกันที่ควรทราบ มีดังนี้

 q
  สมมูลกับ
 p
 q
 สมมูลกับ
 p
(p  q)  r
 สมมูลกับ
p ∧ (q ∧ r)
(p ∨ q) ∨ r
 สมมูลกับ
p ∨ (q ∨ r)
p ∧ (q ∨ r)
 สมมูลกับ
(p ∧ q) ∨ ( p ∧ r)
p ∨ (q ∧ r)
 สมมูลกับ
(p ∨ q) ∧ ( p ∨ r)
p → q
 สมมูลกับ
~p ∨ q
p → q
 สมมูลกับ
~q → ~p
p ⇔ q
 สมมูลกับ
(p → q) ∧ (q → p)

ประพจน์ที่เป็นนิเสธกัน
ประพจน์ 2 ประพจน์เป็นนิเสธกัน ก็ต่อเมื่อ ประพจน์ทั้งสองมีค่าความจริงตรงข้ามกันทุกกรณีของค่าความจริงของประพจน์ย่อย
ตัวอย่างประพจน์ที่เป็นนิเสธกันที่ควรทราบ มีดังนี้

~(p ∧ q)
 สมมูลกับ
~p ∨ ~q
~(p ∨ q)
 สมมูลกับ
~p ∧ ~q
~(p → q)
 สมมูลกับ
p ∧ ~q
~(p ⇔ q)
 สมมูลกับ
(p ⇔ ~q) ∨(q ⇔ ~p)
~(p ⇔ q)
 สมมูลกับ
(p ∧ ~q) ∨ ( q ∧~p)

พิสูจน์


จะเห็นว่า p ∧ q สมมูลกับ q ∧ p
         ~(p ∧ q) สมมูลกับ ~p ∨ ~q เป็นนิเสธของ p ∧ q

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น